แหล่งท่องเที่ยว

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
 
อยู่ห่างจากรีสอร์ทประมาณ 2 กม. สามารถเดินทางจากถนนหน้ารีสอร์ทต่อไปยังวัดได้เลย โดยมีลานจอดรถด้านล่างเจดีย์ และใช้ทางขึ้นทางบันไดกว่า 100 ขั้น ซึ่งระหว่างทางจะได้เห็นประติมากรรมสวยๆ จากการประดับกระเบื้องสี เซรามิค และรูปปั้นพระพุทธรูปปางต่างๆ จนถึงองค์เจดีย์สีทอง
 
วัดผาซ่อนแก้ว มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว มีชื่อเต็มว่า  เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี โดยมีรูปทรงวิจิตรงดงามด้วยการออกแบบ และการเอาใจใส่รายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว รูปร่างขององค์เจดีย์ สร้างเลียนแบบดอกบัวที่ซ้อนกัน 7 ชั้น รอบๆ องค์เจดีประดับด้วยแก้วใส อัญมณี เครื่องเบญรงค์ และกระเบื้องหลากสีสัน เป็นลวดลายที่วิจิตรสวยงาม

บนยอดเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และ บริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป

มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ สร้างขึ้นเพื่อร่วมน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหาวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ 85 พรรษา ของพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 และการสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบต่อไป โดยสร้างเป็นรูปพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ประดิษฐานบนอุโบสถ ฐานมีขนาดความกว้าง 41 เมตร ยาว 72 เมตร และสูง 45 เมตร แบ่งเป็น 7 ชั้น โดยส่วนของชั้นที่ 1 - 3 เป็นที่พักของผู้ปฏิบัติธรรม ส่วนบริเวณอื่น ใช้เป็นที่ประกอบศาสนากิจ การสวดมนต์ ฟังธรรม และการปฏิบัติภาวนา

บริเวณรอบวัด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปต่างๆ มากมายหลายรูปแบบ มีอาคารพักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม แลมีบ้านพักหลังเล็กเรียงรายไล่ระดับกันลงไปตามแนวเนินเขา ร่มรื่นไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว และต้นไม้สำคัญในพุทธศาสนามากมาย

วิวทางด้านหลังวัด เป็นทิวเขาเรียงราย สลับซับซ้อน ของบริเวณอุทยานแห่งชาติที่เงียบสงบ สวยงาม เป็นแหล่งกำหนดทะเลหมอกในฤดูฝน ส่วนด้านหน้าเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านทางแดง ซึ่งมีบ้านเรือนปลูกสร้างไล่เรียงไปตามเส้นทางของหุบเขา มีทิวเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนสวยงาม โดยมียอดภูเขาผาซ่อนแก้วตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ซึ่งยอดผาซ่อนแก้วแห่งนี้จะมีเมฆหมอกจะมารวมตัวเกือบตลอดวันในฤดูฝน

ร้านกาแฟ พิโน ลาเต้
 
อยู่ห่างจากรีสอร์ทเพียงประมาณ 2 กม. ไม่ไกลเลย จากถนนหน้ารีสอร์ทตรงไปยังเนินเขาผาซ่อนแก้วอีกไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้ว
 
พิโน ลาเต้ (Pino Latte) ร้านกาแฟ ร้านอาหาร รีสอร์ท และจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเขาค้อ ตั้งอยู่โซนวัดผาซ่อนแก้ว แคมป์สน บนเนินเขาที่สูงกว่าวัดผาซ่อนแก้ว ระยะทางห่างกันประมาณ 500 เมตร สามารถมองเห็นวิววัดผาซ่อนแก้วท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อนอยู่ด้านล่างได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูฝน จะเห็นทะเลหมอกยามเช้าได้เกือบทุกวัน เป็นภาพที่สวยงามที่สุดภาพหนึ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเขาค้อ
 
ทางร้านเป็นจุดชมวิวที่เปิดกว้าง รองรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม ถ่ายรูป เช็คอินได้ โดยมีลานจอดรถ และพื้นที่สำหรับเดินเล่น นั่งเล่น ถ่ายรูป และมีส่วนที่เป็นร้านกาแฟ สำหรับนั่งชิลล์ริมหน้าผากว้างใหญ่สวยงาม ประดับไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว มีร้านอาหารรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาที่กิน บรรยากาศดีๆ วิวสวยๆบนเนินเขาสูง
 
ร้านกาแฟเปิดกันตั้งแต่เช้า และปิดค่ำหน่อย เปิดโอกาสให้ได้นั่งชิลล์ชมวิว ชมหมอกกันได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ 7.00-19.00 น.
 

ร้านกาแฟ "ตั๊กม้อ คอฟฟี่"

อยู่ไม่ไกลจากค้อคีริน รีสอร์ท เช่นกัน อยู่สูงถัดจากร้านพิโนลาเต้ขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร

ที่นี่สวยจริง คอนเฟิร์ม!

ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงกว่า 1000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ติดเขาผาซ่อนแก้วเลยทีเดียว จึงจะได้เห็นวิวที่สูงสวย "อลังการมาก"

ด้านหลังร้านติดกับผาซ่อนแก้ว ภูเขาสูงใหญ่ ที่มีหมอกขาวลอยมาให้เอื้อมมือจับตลอดฤดูฝนอยู่แล้ว ได้เข้ามาถึงร้าน เหมือนขึ้นมาอยู่ท่ามกลางสายหมอก

ด้านหน้าเป็นวิวหุบเขาสลับซับซ้อน ที่มักมีสายหมอก แอบบอิงอยู่ตามยอดเนิน สวยงาม และมีวิววัดผาซ่อนแก้วท่ามกลางสายหมอกให้ชมกันด้วย

ส่วนวิวอีกด้านหนึ่ง เป็นวิวทิวสนกว้างๆ มองไกลไปได้ถึงบริเวณถนนสาย 12 ที่มีเมืองเล็กๆ "แคมป์สน" เป็นแสงสียามค่ำ โดยมีฉากหลัง เป็นทิวเขาสลับซับซ้อน มองไกลถึงเขาค้อกันเลย

บริเวณร้านจัดเป็น 2 ส่วน ร้านกาแฟอยู่ทางด้านหน้า มีโต๊ะให้นั่งมากมายทั้งบริเวณนอกร้าน และในร้านเลือกทำเลกันได้ตามใจชอบ บรรยากาศดีมากๆ จิบกาแฟ ถ่ายรูป เช็คอิน กันได้อย่างอิสระ แม้คนจะเยอะ พลุกพล่านนิดนึง แต่ไม่ถือว่าอึดอัด เพราะพื้นที่กว้างขวาง

ส่วนด้านหลังเป็นร้านอาหารแยกออกมาอีกร้านหนึ่ง คือร้านโรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า ในเครือของร้านโรงเตี๊ยมที่คุ้นเคยกันนั่นเอง เพราะเคยมีสาขาที่ภูทับเบิก และที่เขาค้อเองก็มีอีกร้านหนึ่งเปิดอยู่บนถนนสาย 12 เลื่องชื่อในเมนูอาหารหลายอย่างโดยเฉพาะ ขาหมูหมั่นโถว และกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา

ถ้ามาพักที่ค้อคีริน รีสอร์ท ก็แนะนำให้มาทานอาหารค่ำที่ร้านโรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า เพราะได้บรรยากาศบนยอดเขาสุดๆ อาหารอร่อยในราคาที่ไม่แพงเว่อร์ ที่สำคัญไม่ไกลจากรีสอร์ทเลย ไป-มา สะดวกครับ

The Bluesky Garden
 
อยู่ห่างจากค้อคีริน รีสอร์ทประมาณ 5 กม. ตั้งอยู่บนถนนสาย 12 จากบริเวณทางเข้ารีสอร์ทเดินทางต่อไปทางแคมป์สน เลยสามแยกแคมป์สนไปประมาณ 2 กม.
 
ที่นี่มีสวนดอกไม้เมืองหนาวในจินตนาการ ที่ตกแต่งไว้สวยงามสุดๆ เป็นจุดที่สาวๆ ห้ามพลาดสำหรับการถ่ายรูป เช็คอิน กับสถานที่อันสวยงาม ตกแต่งสวนและบ้านพักสไตล์อังกฤษสวยหรู
 
หากมาเที่ยวชมในฤดูฝน จะได้เห็นหมอกสวยๆ และภูเขาเขียวขจีท่ามกลาง บ้านพัก และตึกสไตล์ยุโรป โดดเด่น เหมือนอยู่ต่างประเทศ
แต่หากมาชมในฤดูหนาว ก็จะได้บรรยากาศของดอกไม้เมืองหนาว สีสันสวยงาม ละลานตาไปทั่วสวน
สวนดอกไม้ที่นี่ เก็บค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไปประมาณ 200 บาท หากไม่ต้องการเสียค่าบริการ ก็สามารถเยี่ยมชมส่วนที่เป็นพื้นที่รีสอร์ทได้ ซึ่งก็สามารถเห็นวิวสวยงามจากมุมสูง ที่มองลงไปยังสวนดอกไม้ และพื้นที่ที่ทางรีสอร์ทจัดสร้างเป็นบ้านหรูสไตล์ยุโรป ไว้สำหรับขายให้กับผู้ที่สนใจด้วย
 
นอกจากนี้ช่วงค่ำ ที่เดอะบลูสกาย รีสอร์ท ยังเป็นสถานที่เหมาะสำหรับคู่รัก มานั่งรับประทานอาหารเย็น ซึ่งมีอาหารอิตาเลี่ยน และอาหารไทย หลากหลายเมนูให้เลือก พร้อมมีดนตรีสด ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก โดยราคาอาหารจะก็สูงกว่าร้านอื่นๆ บนเขาค้อ ตามสถานที่และบรรยากาศ

ทะเลหมอกเขาค้อ

จุดชมทะเลหมอก และจุดชมวิวเขาค้อ อยู่ห่างจากรีสอร์ทประมาณ 25 กม. ในโซนตำบลเขาค้อ หากต้องการชมทะเลหมอกสามารถขับรถจากรีสอร์ทไปชมได้ในช่วงเช้า โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

จุดชมวิวที่แนะนำ คือ

1. จุดชมวิวบริเวณอำเภอเขาค้อ เป็นจุดชมวิวสาธารณะ มีที่จอดรถริมถนน ชมวิวทะเลหมอกได้สะดวก และในบริเวณนี้มีไร่สตรอเบอรี่ มีร้านอาหารเล็กๆน้อยๆ มีร้านขายสินค้าที่ระลึกมากมาย นักท่องเที่ยวค่อนข้างจะคึกคัก

2. จุดชมวิวที่ แทนรักทะเลหมอกรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทริมถนนสาย 2325 ทางลงไปเที่ยวยังน้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง เพราะมีสนามหญ้าและสวนดอกไม้กว้างๆ ตกแต่งไว้เป็นลานทั่วบริเวณ มีร้านกาแฟเล็กๆ คอยให้บริการ มีที่จอดรถริมถนน ซึ่งทางรีสอร์ทอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถจอดรถเข้าไปชมวิวได้

3. จุดชมวิววัดกองเนียม อยู่บนเส้นทางเดียวกับจุดชมวิวหน้าอำเภอเขาค้อ เลยที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางสะเดาะพงประมาณ 2 กม. เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่อยู่ทางทิศตะวันออก ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น กับทะเลหมอกไปได้พร้อมกัน แต่ทะเลหมอกบริเวณนี้เกิดยากกว่าทะเลหมอกที่จุดชมวิวเขาค้อ ต้องเป็นวันที่อากาศชื้นสูง และไม่มีลม เท่านั้น

4. จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ อยู่ค่อนข้างไกลจากค้อคีรินซักหน่อย ห่างกันประมาณ 40 กม. ขับรถประมาณ เกือบ 1 ชั่วโมง โดยเดินทางไปทางพระตำหนักเขาค้อ และตรงต่อไปอีกประมาณ 7-8 กม. เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง สามารถชมทะเลหมอกได้รอบทิศ เพราะเป็นยอดเขาสูงสุดในบริเวณนั้น ซึ่งหากมีทะเลหมอกที่จุดชมวิวหน้าอำเภอ ก็จะมีทะเลหมอกที่นี่เช่นเดียวกัน เพราะเป็นทะเลหมอกบริเวณที่ต่อเนื่องมาจากอ่างเก็บน้ำรัตนัย

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ
 
ทุ่งกังหัน อยู่ห่างจากรีสอร์ทประมาณ 20 กม.แต่ก็สามารถมองเห็นได้จากรีสอร์ท เพราะหากวัดระยะทางโดยตัดจากรีสอร์ทแล้วไม่ไกลมากนัก เพียงแต่การเดินทางโดยรถยนต์ต้องอ้อมไปตามเส้นทางบนสันเขา ทำให้เป็นระยะทางไกลพอสมควร ใช้เวลาเดินทางจากรีสอร์ทประมาณ 20 นาที
 
จุดเด่นน่าท่องเที่ยวของกังหันลม อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ และสวยงามของทุ่งกังหัน ซึ่งมีกังหันลมผลิตไฟฟ้า ขนาดความสูงประมาณ 100 เมตร จำนวน 24 ต้น ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาสูง ท่ามกลางวิวทิวทัศน์สวยงาม
 
บริเวณที่ตั้งของกังหันลม ใกล้กับเขตที่อยู่อาศัยของชาวเขาในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งชาวม้ง และชาวมูเซอ (บ้านเพชดำ) ทำให้กิจกรรมในบริเวณกังหันลม เป็นกิจกรรมสนุกๆ ของชาวเขา เช่นการโล้ชิงช้าชาวเขา การเล่นรถไม้ล้อเลื่อน หรือฟอร์มูล่าม้ง มีสวนดอกเวอร์บีน่าสวยๆ มีไร่สตรอเบอรี่ และมีร้านขายสินค้าที่ระลึกอยู่อีกหลายร้าน
 
เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม
 
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
 
สถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับประวัติการสู้รบระหว่างรัฐบาล กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวมิสต์ ในช่วงปี 2511-2525 เขาค้อเป็นสมรภูมิการสู้รบที่ดุเดือดและยาวนาน ซึ่งเมื่อสงครามจบลง เขาค้อกลับเข้าสู่ความสงบ ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ และสิ่งก่อสร้างหลายอย่างไว้เป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลัง ได้รับรู้ ได้เรียนรู้ ถึงช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทยที่เกิดขึ้น ณ เขาค้อ
 
1. อนุสรณ์สถาน ผู้เสียสละ เขาค้อ
เป็นอนุสรณ์ที่ระลึกถึงผู้เสียสละชีวิต เพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย โดยสร้างเป็นอนุสรณ์แท่งสามเหลี่ยมฐานกว้าง 11 เมตร สูง 25 เมตร ภายในบรรจุรายชื่อของผู้เสียสละไว้ทั้งหมด บริเวณใกล้เคียงยังมีพิพิธภัณฑ์อาวุธที่ใช้สู้รบระหว่างสงคราม มีฐานกรุงเทพ หรือฐานอิทธิ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญบนยอดเขา และบริเวณรอบๆ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นอำเภอเขาค้อได้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นยอดเขาสูงสุดในบริเวณเขาค้อนี้
 
2. พระตำหนักเขาค้อ
ตั้งอยู่บนเขาย่า บนเส้นทางสาย 2258 ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อ ประมาณ 5 กม. เป็นพระตำหนักที่ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จัดสร้างขึ้นถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องจากทรงเสด็จเยี่ยมเยียนทหาร ตำรวจ และพลเรือน ในพื้นที่การสู้รบหลายครั้งในช่วงที่มีการต่อสู้กัน
พระตำหนักตั้งอยู่บนเขาย่า ภูเขาที่สูงที่สุดในบริเวณเขาค้อ ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการจัดสวนดอกไม้เมืองหนาว สวยงามในบริเวณพระตำหนัก มีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว จุดกางเต็นท์ และมีจุดเดินเท้าขึ้นยอดเขาย่า ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเดินป่าสายหนึ่งของเขาค้อ
 
3. เจดีย์กาญจนาภิเษก
เจดีย์สีขาวตั้งตระหง่านใกล้จุดชมวิวเขาค้อ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเขาค้อ เนื่องจากชาวเขาค้อได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นสิริมงคลหลังสิ้นสุดการสู้รบบนเขาค้อ และพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานพระบรมสาลีริกธาตุของพระพุทธเจ้า มาประดิษฐานไว้บนยอดเจดีย์แห่งนี้ด้วย นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะขอพรในโอกาสที่มาเที่ยวเขาค้อ เจดีย์นี้ตั้งอยู่ใกล้ไปรษณีย์เขาค้อ  บนถนนสาย 2196  ซึ่งเป็นถนนท่องเที่ยวหลักของเขาค้อ

แหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติม จากเว็บไซต์ เขาค้อ.คอม